ในขณะที่เรากำลังอยู่ในช่วงกลางฤดูร้อน อัตราแลกเปลี่ยนกำลังเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปให้ความสนใจเป็นพิเศษ  อย่างไรก็ตาม ฟอเร็กซ์ก็ยังคงเป็นจุดสนใจหลักของนักลงทุนเช่นกัน หลังจากที่ค่าเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าเท่ากันเมื่อเดือนตุลาคม 2022 ค่าเงินดอลลาร์ก็ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง จากจุดสูงสุดที่ 1.03 จนถึงระดับปัจจุบันที่ 0.86 เงินดอลลาร์สหรัฐสูญเสียมูลค่ากว่า 15% เมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในตลาดเงิน และสถานการณ์เดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นกับคู่สกุลเงิน GBP/USD เช่นกัน โดยค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

สิ่งนี้เกิดขึ้นนี้มาจากหลายสาเหตุ และยังไม่แน่ชัดว่าเราถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง นอกจากที่เกิดความไม่แน่นอนทางการค้าท่ามกลางนโยบายภาษีเชิงรุกของประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ยังมีความตึงเครียดในภูมิภาคที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักด้วยเช่นกัน และนี่ยังไม่ได้นับรวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางและกลไกของตลาดที่ปรับตัวไปตามธรรมชาติ ในบทความนี้ เรามาจะวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อพยายามคาดการณ์ทิศทางของตลาดฟอเร็กซ์ในครึ่งหลังของปี 2025

พื้นที่การค้า

ในขณะที่จีนยังคงท้าทายสหรัฐในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลก โดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจจึงเลือกใช้นโยบายสงครามการค้าเต็มรูปแบบกับทั่วโลก ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือถูก หลังจากที่มีการข่มขู่กันด้วยภาษีระดับสามหลัก ทั้งสองประเทศก็เข้าสู่การเจรจาอย่างจริงจัง แม้การเจรจาในสตอกโฮล์มจะหยุดชะงักลงเนื่องจากประเด็นการใช้น้ำมันจากรัสเซียและอิหร่านของจีน แต่รัฐมนตรีการค้าสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนท์ ได้กล่าวว่า เขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่าย "มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลง"  หากการทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกิดขึ้นจริง สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นการค้าโลก และเราน่าจะคาดการณ์ได้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น

ที่น่าสนใจคือ ค่าเงินดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้นมากกว่า 1% เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในขณะเดียวกัน การเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรปยังดูไม่คืบหน้ามากนัก แม้จะมีการตกลงกรอบภาษีเบื้องต้นที่ 15% กับสินค้า EU และมีการให้คำมั่นว่าจะซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงลงทุนในโครงการอื่นของสหรัฐฯ อีก 6 แสนล้านดอลลาร์ EU ได้ระงับการใช้ภาษีตอบโต้ไว้ 6 เดือน แต่ภาษียังมีผลอยู่ และอาจส่งผลต่อความผันผวนของคู่สกุล EUR/USD ได้หาเริ่มมีผล

ผ่อนคลายลง

หลังจากช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดในรอบหลายปี ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนนโยบายไปในทิศทางที่ผ่อนคลายขึ้น ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ต้องแบกรับดอกเบี้ยสูงในช่วงสองปีที่ผ่านมา คำถามในตอนนี้คือ ผู้กำกับดูแลแต่ละแห่งจะลดดอกเบี้ยลงเร็วแค่ไหน และจะลดลงไปเท่าใด       ตามที่เรากล่าวไปก่อนหน้านี้ ดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ และหากหากเฟดผ่อนคลายนโยบายเร็วเกินไป สิ่งนี้อาจเร่งให้เกิดการอ่อนตัวลงได้อีก

ในการประชุมวันที่ 30 กรกฎาคม เฟดได้โหวตเพื่อคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.3% แม้จะถูกกดดันจากฝ่ายบริหารของทรัมป์ให้ลดดอกเบี้ยลงก็ตาม ซึ่งอาจช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักที่ธนาคารกลางได้เริ่มลดดอกเบี้ยไปแล้ว ตัวอย่างเช่น ECB ได้เริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 จาก 4% การปรับลดลงเหลือ 2% ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในการประชุมเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะคงระดับนี้ไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนธนาคารกลางอังกฤษยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้เหนือ 4% หลังโควิด แต่คาดว่าจะลดลง 25 bps เหลือ 4% ในการประชุมวันนี้ (7 สิงหาคม) แม้ว่าสิ่งนี้อาจพยุงค่าเงินดอลลาร์ไว้ได้ในระยะสั้น แต่เครื่องมือ CME's FedWatch บ่งชี้ว่า มีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 bps ในเดือนกันยายนสูงถึง 90% ซึ่งอาจส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในอนาคต    

เทรดฟอเร็กซ์และ CFD ตัวอื่น ๆ ที่ Libertex

Libertex เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต ดัชนี ออปชั่น และฟอเร็กซ์ ที่ Libertex คุณสามารถเทรด CFDs ของEUR/USD, AUD/USD, GBP/USDและ USD/JPY, รวมถึงตัว US Dollar Index หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสร้างบัญชีเป็นของคุณเอง โปรดไปที่ www.libertex.org/signup วันนี้!