ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์แบบเก่าและเคลื่อนไหวช้า และไม่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนและเทรดเดอร์สมัยใหม่ โดยเฉพาะท่ามกลางกระแสความนิยมของคริปโต อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า โลหะเหลืองอร่ามนั้นไม่ใช่อดีตที่เลือนหายไป หลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,000 ในเดือนนี้ และปัจจุบันราคาอยู่ที่ $3,044.05 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากราคาในช่วงต้นปี 2020 การเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยรักษาความมั่งคั่งได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในพอร์ตการลงทุน
การปรับตัวขึ้นของทองคำมีหลายปัจจัยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง - ตั้งแต่ความไม่แน่นอนที่เริ่มต้นจากโควิด ไปจนถึงภาวะเงินเฟ้อรุนแรงหลังการแพร่ระบาด และเสถียรภาพในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่เลวร้ายลงตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน ด้วยการเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ป้องกันความเสี่ยง ทองคำสามารถต้านทานความผันผวนได้ดี และการทำจุดสูงสุดใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ในตอนนี้ ประเด็นเรื่องภาษีศุลกากรที่อาจจุดชนวนสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ตลอดจนแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นต่อไปในปี 2025
ปัจจัยจากทรัมป์
ด้วยการมีความแตกต่างจากสินทรัพย์ประเภทอื่น โลหะมีค่ามักได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน และโลกในปัจจุบันก็ล้วนเต็มไปด้วยสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ความขัดแย้งทั้งในยุโรปและตะวันออกกลางยังคงไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ดูเหมือนต้องการทำสงครามการค้ากับทุกประเทศ หลังจากที่เขาประกาศใช้อัตราภาษีศุลกากรคงที่ 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงการกำหนดภาษีตอบโต้สำหรับสินค้าบางกลุ่ม ในวันที่ 2 เมษายน โดยมีเป้าหมายหลักของมาตรการดังกล่าวคือจีน และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เม็กซิโก และแคนาดา
สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกอย่างสหรัฐฯ และจีน อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่เป็นผลดีต่อทองคำ นอกจากนี้ การที่ CCP กำหนดภาษีตอบโต้สำหรับถ่านหินและ LNG จากสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า จีนได้เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับทรัมป์โดยตรง ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงสูง การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรม จากมาตรการทางการค้าเหล่านี้ อาจเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องจับตาดูว่า ทรัมป์จริงจังกับการทำสงครามการค้าเพียงใด เนื่องจากที่ผ่านมา เขาเคยใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อเจรจาข้อตกลงการค้าที่ดีขึ้นสำหรับสหรัฐฯ เท่านั้น นอกจากนี้ หากพรรครีพับลิกันสามารถผลักดันข้อตกลงสันติภาพ สำหรับความขัดแย้งระดับโลกที่กำลังดำเนินอยู่ สิ่งนี้อาจลดแรงหนุนราคาทองคำลงได้
มองไปที่เศรษฐกิจมหภาค
แม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลก จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของทองคำตลอดทั้งปีนี้และปีหน้า แต่ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ใกล้ระดับ 3% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง แต่เฟด ECB และ BoE ต่างต้องเผชิญกับแรงกดดันมากมาย ให้ลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ตามที่เคยให้สัญญาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้กู้จำนวนมากที่กู้เงินจำนองก่อนเกิดโรคระบาด ต่างกำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยจริงสูงกว่า 5%
เมื่อวันพุธที่ 19 มีนาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.5% แต่ยังยืนยันแผนการลดดอกเบี้ยอย่างน้อยสองครั้งภายในปีนี้ ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า เทรดเดอร์ให้ความเป็นไปได้ถึง 66% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยภายในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนราคาทองคำคือ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเฉลี่ย 5% เมื่อเทียบกับเงินยูโรและปอนด์สเตอร์ลิง ซึ่งทำให้ราคาทองคำในรูปสกุลดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ยังลดลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดที่ 4.8% ในเดือนมกราคม แม้ในปัจจุบันจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 4.239% แต่หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ย ก็จะลดลงอีกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทำให้ทองคำเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และช่วยหนุนอุปสงค์ในตลาด
เทรดทองคำและ CFD ตัวอื่นๆ ด้วย Libertex
ด้วย Libertex คุณสามารถเทรด CFD ของสินทรัพย์มากมาย ตั้งแต่หุ้น คริปโต และดัชนี ไปจนถึง ETF ออปชัน และสินค้าโภคภัณฑ์ นอกเหนือจากทองคำ (XAU/USD) และเงิน (XAG/USD) แล้ว Libertex ยังมี CFD ของโลหะมีค่า เช่น ทองแดง แพลทินัม และแพลเลเดียม หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีเทรดเป็นของคุณเอง ให้ไปที่ www.libertex.org/signup วันนี้!