Skip to main content
Bitcoin Breaks Latest Barrier in "Crypto Week" Whopper

Bitcoin ทะลุแนวต้านล่าสุดในช่วง "สัปดาห์แห่งคริปโต"

จ., 07/21/2025 - 11:42

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาที่ราคา Bitcoin มีราคาสูงเกินจริงมักมีคนกล่าวว่าราคาระดับนี้คงไม่สามารถยืนอยู่ได้ กระแสล่าสุดได้เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2024 หลังจากคริปโตตัวนี้ทะลุ $100,000 และเพียงครึ่งปีหลังจากนั้น BTC ก็พุ่งขึ้นเหนือ $120,000 เป็นครั้งแรก Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันที่ 14 กรกฎาคม ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ $123,153.22 ก่อนจะย่อลงมาที่ $118,183.90 ในวันที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทน YTD มากกว่า 25% ไม่ว่าการพุ่งเหนือ $120,000 เป็นผลจากแรง short squeeze ของตลาดฟิวเจอร์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือ ในขณะนี้ BTC ตั้งท่าว่าไปที่จุดสำคัญถัดไปคือ $150,000 แล้ว

ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนในตลาดทุนโลกยังคงสูง Bitcoin ดูเหมือนจะสามารถรักษาความสนใจของนักลงทุนและครองพื้นที่สื่อได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ CLARITY Act, CBDC-banning Anti-CBDC Surveillance Act และ GENIUS Act ที่กำกับดูแล stablecoin แกนนำพรรครีพับลิกันได้เรียกสัปดาห์นี้ว่าเป็น “สัปดาห์แห่งคริปโต” การเสริมความแข็งแกร่งให้กับกรอบทางกฎหมายควบคู่ไปกับการยอมรับที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันและบริษัทเอกชน นับเป็นแรงขับเคลื่อนเชิงบวกต่อการเติบโตในอนาคต เราจะมาวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้พร้อมกับปัจจัยเศรษฐศาสตร์มหภาคและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เพื่อพยายามคาดการณ์ทิศทางของ BTC ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีและหลังจากนั้น

ถือ Bitcoin ระยะยาว ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาล

อีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ปฏิเสธไม่ได้สำหรับตลาดคริปโตโดยรวม โดยเฉพาะสำหรับ Bitcoin คืออัตราการยอมรับที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและครอบคลุมในกลุ่มสถาบันการเงิน ไม่ใช่แค่เพียงกองทุนและบริษัทประกันภัย แต่ยังรวมถึงบริษัททั่วไปอีกด้วย ในปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากถึง 125 แห่งที่ถือครอง BTC อยู่ในงบดุล ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 79 แห่งในไตรมาส 1 ปี 2025 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 58.23% ภายในเวลาเพียง 3 เดือน รวมกันแล้วบริษัทเหล่านี้ถือครอง 847,000 BTC หรือกว่า 4% ของอุปทานทั้งหมดของ Bitcoin ด้วยราคาเฉลี่ยตลอดไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ $107,754 ทำให้มูลค่ารวมของการถือครองเหล่านี้พุ่งทะลุ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% เมื่อเทียบรายไตรมาส

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งที่สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว และแนวโน้มยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอลง ข้อมูลจาก Santiment และ SoSoValue แสดงให้เห็นว่าเฉพาะสปอต Bitcoin ETF เพียงอย่างเดียวก็มีเงินไหลเข้าสูงถึง $7.78 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ 9 กรกฎาคม หรือเฉลี่ยวันละ $353.8 ล้าน แม้สิ่งนี้จะช่วยเสริมสภาพคล่องและหนุนราคาให้เพิ่มขึ้น แต่ Peter Schiff ได้เตือนว่าอัตราการเข้าซื้อ BTC ของบริษัทขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วเช่นนี้อาจก่อให้เกิดฟองสบู่การเก็งกำไรครั้งใหญ่ ถึงขั้นกล่าวว่า “นี่คือพอนซีที่เกิดขึ้นบนพีระมิด มันไม่ได้เป็นการเพิ่มขึ้นของการยอมรับ Bitcoin เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการเก็งกำไรแบบรวมศูนย์ที่บ่อนทำลายหลักการพื้นฐานของ Bitcoin” คำเตือนของเขาซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ Steve Hanke ได้กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน: มันไม่ได้หมายความว่า Bitcoin ไม่ใช่การลงทุนที่ดีในระยะยาว เพียงแต่เตือนให้นักลงทุนระมัดระวังในช่วงที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้สถาบันมอง BTC เหมือนเป็นทองคำมากกว่าจะเป็นสินทรัพย์ปั่นกำไรระยะสั้น

กฎระเบียบ กฎระเบียบ กฎระเบียบ

หลังจากช่วงเวลายาวนานที่กฎหมายกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐฯ มีความคลุมเครือหรือแทบไม่มีเลย ตอนนี้ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ จะบรรลุกรอบกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุม และมีร่างกฎหมายจากรัฐบาลที่เป็นมิตรกับคริปโตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ การอนุมัติสปอต Bitcoin ETF ของ SEC เมื่อต้นปีถือเป็นก้าวสำคัญ และตอนนี้ร่างกฎหมาย CLARITY Act, Anti-CBDC Surveillance Act และ GENIUS Act ก็ผ่านวุฒิสภาแล้ว กฎหมายเหล่านี้จะกำหนดประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน ระบุหน่วยงานกำกับดูแลแต่ละประเภท และเพิ่มการคุ้มครองที่สำคัญ เช่น สิทธิการถือครองเอง และการบังคับเพิกถอนโทเคนที่ไม่ปลอดภัย

สิ่งสำคัญสำหรับสถาบันคือกฎหมายนี้ได้เพิ่มมาตรการป้องกันการฟอกเงินและกระบวนการ KYC มาตรการเหล่านี้จะคุ้มครองผู้ถือครองคริปโตในปัจจุบัน และทำให้ BTC เข้าถึงได้มากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบดั้งเดิมจากสถาบัน เช่น กองทุนของธนาคารและกองทุนบำนาญของรัฐ สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มอัตราการยอมรับ แต่ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านราคาและลดความเสี่ยงของฟองสบู่ เนื่องจากกองทุนเหล่านี้มักถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว แม้ข้อมูลตัวเลข CPI และ PPI ของสัปดาห์นี้จะแสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิถุนายน (เกือบ 3.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา) และมาตรการขึ้นภาษีใหม่ของทรัมป์ที่จะมีผล 1 สิงหาคม แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่านักลงทุนจะ risk-off เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบว่า นี่อาจเป็นผลจากการที่ตลาดรับรู้ไปแล้วหรือคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในที่สุด และทรัมป์จะได้ดีลก่อนถึงเส้นตาย แต่หากเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งไม่เกิดขึ้น เราก็อาจเห็นแรงเทขายได้

เทรด Bitcoin และ CFD ตัวอื่นๆ ด้วย Libertex

ด้วย Libertex คุณสามารถเทรด CFD ที่หลากหลาย ในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้ คริปโตที่ Libertex ให้บริการประกอบด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น CFD ของ Bitcoin และ Ethereum, รวมถึง Grayscale Bitcoin Trust และสปอต Bitcoin ETFs หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีของคุณเองวันนี้ โปรดไปที่ www.libertex.org/signup.

สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการเทรด!

ลงทะเบียนเปิดบัญชีเดโมกับ Libertex และมาเรียนรู้วิธีการเทรด